Saturday, October 17, 2015

ยังไม่จบ! รปภ. 30 ล้าน ลั่นน้อยใจสังคม พูดมาประโยคนี้คนต่างเห็นใจ และคิดใหม่ว่าใครผิด!

รปภ. ถูกหวย 30 ล้าน น้อยใจสังคมรุมประณาม เล็งบวชพักใจ และอาจบวชตลอดชีวิต เพราะเบื่อหน่ายอำนาจเงินทำครอบครัวแตกแยก ด้านภรรยา ยัน เดินหน้าฟ้องแบ่งเงิน 10 ล้าน ปัดขับไล่สามี ไม่ให้เจอหน้าลูก

  กลาย เป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อภรรยาของ นายธรรมรงค์ หรือยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 41 ปี หนุ่ม รปภ. ดวงเฮงถูกลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ออกมาฟ้องศาลขอแบ่งเงิน 10 ล้านบาท โดยอ้างว่าหลังสามีถูกรางวัลใหญ่ก็ไม่สนใจลูก-เมีย ร้อนถึงนายธรรมรงค์ต้องออกมาโต้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง ก่อนจะสวนกลับภรรยา และกลับกลายเป็นว่าทั้งสองคนต่างพูดกันไปคนละทาง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2558 ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปติดตามเรื่องนี้อีกครั้ง และทราบว่าเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายธรรมรงค์มีอาการเครียดจัด หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ จึงต้องไปแพทย์ที่โรงพยาบาล ก่อนจะเปิดใจว่า ก่อนจะถูกหวย ตนมีหนี้สินรวมกว่า 1 ล้านบาท ทำให้ภรรยาพยายามขอแยกทางหลายครั้ง แต่ตนก็ประคับประคองชีวิตครอบครัวมาโดยตลอด กระทั่งมาถูกหวยจึงใช้หนี้ได้หมด คิดว่าหลังจากนี้ชีวิตครอบครัวจะได้ดีขึ้นสักที แต่กลายเป็นแย่กว่าเดิม

นาย ธรรมรงค์ กล่าวต่อว่า ในตอนแรกหลังจากถูกหวย ตั้งใจจะให้เงินภรรยาและแม่ยายคนละ 5 แสนบาท เพื่อปลดหนี้ ซื้อของและซ่อมแซมบ้าน ฝากเงินให้ลูกอีก 2 แสนบาท ซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านอยู่ พร้อมกับสร้างหอระฆังที่วัดบูรพาราม และทำบุญพร้อมบวชอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นจะพาลูกและภรรยามาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังใหม่ นอกจากนี้ยังวางแผนจะสร้างบ้านอีกหลังให้พ่อตา-แม่ยายมาอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย แต่เมื่อตนกลับไปหาภรรยาและลูก กลับถูกแม่ยายและภรรยาต่อว่า ซ้ำยังไล่ไม่ให้ตนมาพบลูกอีกด้วย กระทั่งมาเป็นข่าวว่าตนทิ้งลูกและภรรยา วันนี้รู้สึกคิดถึงลูกมาก แต่ไปหาไม่ได้ ทำได้เพียงเปิดดูรูปถ่ายทางโทรศัพท์ที่ตนเองเคยถ่ายเก็บไว้

ทั้งนี้หลังจากตกเป็นข่าว นายธรรมรงค์ ระบุว่า รู้สึกน้อยใจมากที่ถูกคนประณามผ่านทางโซเชียล รู้สึกเสียใจ สังคมไม่มีความยุติธรรม ตอนนี้รู้สึกเบื่อหน่ายอำนาจของเงินที่ทำให้ครอบครัวต้องกลายเป็นแบบนี้เลย คิดอยากจะบวชเพื่อให้จิตใจสงบ ปลีกวิเวก หรืออาจจะบวชตลอดชีวิต และเมื่อมาถึงจุดนี้คงกลับไปคืนดีกับภรรยาไม่ได้แล้ว ส่วนทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะยกให้ลูกเพียงคนเดียว

ขณะ ที่ น.ส.เสาวนีย์ ทองวิเศษ อายุ 28 ปี ภรรยาของนายธรรมรงค์ กล่าวว่า หลังจากวันที่ไปฟ้องศาลก็ยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากสามีเลย และสามีก็ไม่มาหาลูกด้วย อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่สามีทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูก แต่ตนก็คงเดินหน้าฟ้องร้องขอแบ่งเงิน 10 ล้านต่อไป เพราะกลัวว่าถ้าในอนาคต สามีไปมีครอบครัวใหม่ก็อาจเปลี่ยนพินัยกรรมได้ และไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้

น.ส.เสาวนีย์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองและครอบครัวไม่เคยต่อว่าหรือขับไล่นายธรรมรงค์แต่อย่างใด และเมื่อมาถึงจุดนี้คงกลับไปคืนดีกันไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องคดีความศาลได้นัดไกล่เกลี่ยในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายนนี้