Saturday, October 24, 2015

พี่เขยโหดยิงน้องเมียดับคาวงเหล้า คาดผิดใจเรื่องจ่ายค่าไฟ

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08:35 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 3872 คน
 เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ นุตเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 64/5 ม.4 ต.บ้านอิฐ อ. เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง
 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ บริเวณกรงสุนัขข้างบ้านพบศพนายสมบัติ หรือเอ๋ มิตรซื่อสัตย์ อายุ 38 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณลำตัวและใบหน้า ทั้งหมด 4 แผล

 
จากการสอบถามนายบุญส่ง เฟื่องแดน อายุ 45 ปี เพื่อนนายสมบัติผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งดื่มสุราอยู่กับนายสมบัติ ซึ่งปกติแล้วตนก็จะมานั่งดื่มสุราที่นี่เป็นประจำ และระหว่างที่ตนกำลังนั่งดื่มสุราอยู่กับนายสมบัตินั้น
นายพะยอม หรือช้าง ผลลุษะ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และมีความสัมพันธ์เป็นพี่เขยของนายสมบัติ เดินเข้ามาหานายสมบัติและมีการพูดคุยกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร เดินออกมาเพื่อขอตัวไปห้องน้ำจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนจึงวิ่งออกมาดู ก็เห็นนายสมบัติถูกยิงนอนฟุบอยู่เพียงคนเดียว แต่ไม่พบตัวนายพะยอมแล้ว จากนั้น ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกนางฝน บุญดี อายุ 32 ปี ภรรยาของนายสมบัติให้ทราบ
ด้านนางฝน กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ร้านลาบแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ปกติตนจะออกไปทำงานทุกวันและจะเลิกงานกลับมาตอนมืดหลังเลิกงาน ส่วนนายสมบัติสามีของตนนั้น มีอาชีพเพาะพันธุ์สุนัข และเลี้ยงสัตว์ พร้อมทั้งมีหน้าที่ดูแลลูกอีก 2 คน ตนและนายสมบัติอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนและนายสมบัติอาศัยอยู่ชั้นล่าง ส่วนนายพะยอม พี่เขยและภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน อาศัยอยู่บนบ้าน ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายพะยอมมาบอกให้ตนและนายสมบัติจ่ายค่าไฟฟ้าที่บ้าน ซึ่งตนก็รับปากว่าจะจ่ายให้ ส่วนนายสมบัติ สามีของตนและนายพะยอมนั้น มีเรื่องผิดใจกันมาตลอด โดยตนไม่คิดเลยว่าในวันนี้จะมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้

 
ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้นั่งดื่มสุราอยู่กับเพื่อน และจากการสอบสวนทราบว่าก่อนที่ผู้ตายจะถูกยิงเสียชีวิต นายพะยอมพี่เขยได้เดินมาคุยด้วย เมื่อออกมาก็พบว่านายพะยอมพี่เขยของผู้ตายได้หายไป เหลือเพียงร่างของผู้ตายนอนแน่นิ่งอยู่ ซึ่งเบื้องต้นจะได้ติดตามตัวนายพะยอมพี่เขยมาสอบสวน และดำเนินคดีต่อไป