Friday, November 13, 2015

จับมือฆ่า-เผา เสียเต็นท์รถ ที่แท้หนุ่มหุ้นส่วน แค้นทวงเงิน5ล้าน

จับหนุ่มหุ้นส่วนฆ่าเผาเสี่ยเต็นท์ รถ ล้างหนี้ 5 ล้าน หลังพบถูกไฟคลอกเสียชีวิตอยู่ในซากเก๋งอัลติสที่นครนายก ตำรวจส่งศพชันสูตรแล้วเจอ หัวกระสุนปืน 11 ม.ม. ตุงอยู่บริเวณหัวไหล่ จึงส่งชุดสืบสวนลงหาข่าว พบเสี่ยหนุ่มมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ที่เกิดเหตุก่อนไฟไหม้รถ เลยเชิญตัวมาเค้นสอบ จนยอมรับสารภาพ แค้นถูกเร่งรัดหนี้สินเป็นเงิน 5 ล้านที่ผู้ตายปล่อยกู้ ระหว่างนั่งอยู่ในรถด้วยกัน จึงชักปืนจ่อยิง 3 นัดตายคาเบาะคนขับ ก่อนดูดน้ำมันจยย. เทราดศพจุดไฟเผาทั้งคนทั้งรถ

จาก กรณีเมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.บ้านนา จ.นครนายก พบศพนายบรรจง ตั้งคณาวาณิชย์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/49 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอยู่ในซากรถยนต์เก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 5300 นครนายก ที่ถูกไฟไหม้ทั้งคันอยู่บริเวณริมถนนสายนครนายก-รังสิต หลักก.ม.ที่ 61-62 หมู่ 5 บ้านหนองบัวตาโต้ ต.บ้านพร้าว อ.บ้านนา จ.นครนายก สภาพศพเหลือแต่โครงกระดูก


จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็น นักธุรกิจปล่อยเงินกู้และหุ้นส่วนเต็นท์รถยนต์มือสองในตัวอ.บ้านนา จ.นครนายก ต่อมาผลการชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ พบหัวกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.อยู่บริเวณกระดูกหัวไหล่ขวา 1 นัด โดยตำรวจตั้งประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตเรื่องธุรกิจปล่อยเงินกู้และขัดแย้ง กับหุ้นส่วนเต็นท์ขายรถยนต์มือสองในพื้นที่


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พ.ย. ที่สภ.บ้านนา จ.นครนายก นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.นครนายก พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครนายก พ.ต.อ.คมกฤษ ศรีผ่องงาม ผกก.สภ.บ้านนา พ.ต.อ.ยงยุทธ มาศิริ พงส.ผทค.(หน.งานสอบสวน) พ.ต.ท.กิตติ ตันเสียง รอง ผกก.สส. ร่วมแถลงจับกุม นายชาตรี ทองประสาท อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 8 ต.ทองหลาง อ.บ้านนา จ.นครนายก เจ้าของบุญส่งเต็นท์รถ พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ยี่โคลท์ 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 อัน ปลอกกระสุน 1 ปลอก รถจักรยานยนต์ฮอนด้าพีซีเอ็กซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน ตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่จ.167/2558 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558


พล.ต.ต. อิทธิพล เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากพบศพนายบรรจงอยู่ในซากรถยนต์คันที่ถูกไฟไหม้ และผลชันสูตรจากนิติเวชร.พ.ตำรวจ ระบุว่าพบหัวกระสุนปืนอยู่ในศพผู้ตาย จึงได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านนา ร่วมกับชุดสืบสวนภ.จว.นครนายก และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมลงพื้นที่สอบสวนหาข่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมเชิญญาติผู้เสียชีวิตมาสอบสวน โดยตั้งประเด็นสาเหตุการตายไปที่เรื่องธุรกิจปล่อยเงินกู้และเต็นท์รถมือสอง ที่ทำร่วมกับหุ้นส่วน ต่อมาได้เชิญตัวนายชาตรีมาสอบสวนช่วงกลางดึกวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีพยานเห็นนายชาตรีมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุก่อนที่ ไฟจะไหม้รถ จนกระทั่งยอมรับสารภาพว่าเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแล้วใช้น้ำมันราดจุดไฟ เผา สาเหตุเพราะถูกผู้ตายเร่งรัดหนี้สิน 5 ล้านบาท


ส่วนนายชาตรี รับสารภาพว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนโทรศัพท์ไปหานายบรรจงผู้ตายให้มารับที่บ้านพัก เพื่อตกลงกันเรื่องหนี้สินที่ทำธุรกิจเต็นท์รถยนต์มือสองด้วยกัน และเรื่องหนี้สินเงินกู้ที่ตนติดผู้ตายอยู่เป็นเงิน 5 ล้านบาท ระหว่างที่นั่งมาในรถเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง เพราะผู้ตายเร่งรัดให้ตนใช้หนี้สินที่ติดค้างอยู่ จนผู้ตายมาจอดรถริมถนนที่เกิดเหตุ ด้วยความโมโหตนจึงชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ไป 3 นัดจนเสียชีวิตคาเบาะนั่งคนขับ จากนั้นตนโทรศัพท์เรียกเพื่อนให้ขี่รถจักรยานยนต์มา รับกลับบ้านเอาปืนไปซ่อนไว้ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาที่รถผู้ตายอีกครั้งตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ดูดน้ำมันจากรถจักรยานยนต์เอาไปราดที่ศพแล้วจุดไฟเผา จากนั้นหนีไปซุ่มดูอยู่จนกระทั่งไฟลุกท่วมรถมีชาวบ้านและกู้ภัยมาที่เกิด เหตุ จึงเข้ามาดูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบ คุมตัวนายชาตรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย วางแผนเผาทรัพย์ผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและยิงปืนโดยใช่เหตุ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

from: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1447468685