Sunday, December 20, 2015

สัปตมวรรตบรมขัติยราชินีนาถ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ ๘๔ พรรษา

มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบในปี 2559 จัดนิทรรศการ “สัปตมวรรต บรมขัติยราชินีนาถ” รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี และทรงสืบสานพระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์

คุณชวลี อมาตยกุล เลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ กล่าวถึงนิทรรศการที่จัดขึ้นว่า มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติอันเนื่องด้วยวังสระปทุมที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 รวมถึงเรื่องราวพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกร การอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย แบ่งออกเป็น 3 ภาค เริ่มตั้งแต่ “ปทุมนิวาสราชปวัตติ” พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้าฯ ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับวังสระปทุม และพระราชกรณียกิจในหน้าที่สมเด็จ พระราชชนนีในการทรงอภิบาลสมเด็จพระราชโอรสและสมเด็จพระราชธิดา
คุณชวลี อมาตยกุล (ที่ 2 จากซ้าย) นำคณะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ อาทิ สมฤดี อมาตยกุล, พาสินี ลิ่มอติบูลย์ และกรรภิรมย์ กังสนันท์ แนะนำนิทรรศการ “สัปตมวรรตบรมขัติยราชินีนาถ”.

ภาคที่สอง “สิริวัฒนรัชกรณียกิติ” เรื่องราวการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ ที่ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขเคียงคู่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงดำเนินรอยตามพระยุคลบาทสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทั้งด้านการแพทย์ สาธารณสุข การศึกษา การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ การสังคมสงเคราะห์ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ภาคที่สาม “พระคุณพิสิฐสรรพสกล” จัดแสดงถึงพระเกียรติยศ พระเกียรติคุณที่ทรงได้รับการแซ่ซ้องสดุดีจากนานาชาติ และภาคที่สี่ “พระการุณย์ดลสรรพการ” แสดงพระมหากรุณาธิคุณต่อมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทรงอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่ชาติไทย ด้วยแนวทางของ “ศิลปาชีพ” และพระเมตตากรุณาธรรมในฐานะองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยมีผลงานศิลปาชีพอันประณีตละเอียดอ่อนมาจัดแสดงประกอบ อาทิ ฉากกั้นห้อง ตุ๊กตาไม้โมกมัน งานปีกแมลงทับ เครื่องแต่งกายในการแสดงโขน ฯลฯ ซึ่งแต่ละส่วนของนิทรรศการจะมี QR Code ให้ผู้ชมนิทรรศการได้ใช้แท็บเล็ตสแกนไปที่ QR Code ซึ่งปรากฏอยู่ตามจุดต่างๆของนิทรรศการ เพื่อดูภาพและฟังการบรรยายเกี่ยวกับนิทรรศการส่วนนั้นๆอย่างเพิ่มอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.00-15.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าฯ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559.

ที่มา :http://www.thairath.co.th/content/551715