
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พล.ต.ต.ชนาภัทร เชษสมภรณ์ รอง ผบช.ภ. 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และพ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สภ.ชะอำ แถลงการจับกุม นายอภิวัฒ หรือต้น เจี้ยมดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ถ.บ้านชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ชะอำ, อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงนายสุวิน หรือเต้ย ผละพล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 9 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ผู้รับซื้อ พร้อมของกลางทีวีจอแบน 3 เครื่อง พระเครื่องจำนวนมาก นาฬิกาข้อมือ เงินสด ธนบัตรเก่า และอุปกรณ์ลักทรัพย์
พล.ต.ต.ชนาภัทร เปิดเผยว่า เมื่อช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.ชะอำ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง เกิดเหตุคนร้ายใช้รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออสสีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ กว่า 20 ครั้ง พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และพ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สภ.ชะอำ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย โดยนำภาพถ่ายรถยนต์ของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิด รวมถึงรูปพรรณของรถยนต์ที่สามารถจดจำได้ แจกจ่ายให้ตำรวจสายตรวจช่วยตรวจสอบ
กระทั่งเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.ท.ลำพอง เทียมศรี รอง สว.(ป.) สภ.ชะอำ นำกำลังตั้งด่านตรวจชั่วคราว บนถนนบายพาสฝั่งขาล่องใต้ บริเวณคันคลองชลประทาน หน้าโรงแรมฝันดี ต.ชะอำ อ.ชะอำ สังเกตเห็นรถยนต์ ต้องสงสัย ทะเบียน กจ 8202 ประจวบคีรีขันธ์ ขับผ่านมาจึงเรียกให้จอดพบนายอภิวัฒ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบไขควง 1 อัน ประแจบล็อกสำหรับถอดล้อรถยนต์ 1 อัน กล่องโลหะสีเงินสำหรับใส่พระเครื่อง 2 กล่อง และพระเครื่องจำนวนมาก สอบสวนนายอภิวัฒ รับสารภาพว่า ที่ผ่านมาได้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าวตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ อ.ชะอำ ประมาณ 10 ครั้ง อ.ท่ายาง 6 ครั้ง ในเขต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 ครั้ง และเขตใกล้เคียง 1 ครั้ง โดยลงมือก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว
พร้อมสารภาพอีกว่า ทุกครั้งที่ก่อเหตุจะสังเกตดูบ้านที่ค่อนข้างจะมีฐานะ ตั้งอยู่ในบริเวณที่ห่างไกลจากบ้านผู้อื่น บ้านมีการใส่กุญแจรั้ว หรือกุญแจบ้านไว้ และในบ้านไม่มีรถจอดหรือมีคนอยู่ โดยจะขับรถสำรวจก่อนเมื่อสบโอกาสจะขับรถกลับมาก่อเหตุโดยการงัดแงะประตูรั้วแล้วเอารถยนต์เข้าไปจอดภายในบ้านของผู้เสียหายเพื่อให้ดูเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำมาถ่ายภาพเพื่อเสนอขายให้แก่นายสุวิน จากนั้นนายสุวินจะขับรถมารับทรัพย์สิน หรือตนจะส่งสินค้าทางรถตู้โดยสารประจำทาง และทรัพย์สินบางรายการจะนำไปจำหน่ายเองในเขต อ.ชะอำ และ อ.ท่ายาง
ต่อมา พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ได้สั่งการให้ขยายผลจับกุม โดยให้นายอภิวัฒ ติดต่อนำทรัพย์สินเสนอขายนายสุวิน และจับกุมตัวนายสุวินได้ ในเขตพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งได้รับสารภาพว่า ได้ติดต่อซื้อขายทรัพย์สินจากนายอภิวัฒ มาแล้วประมาณ 4-5 ครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเป็นสินค้าที่ถูกขโมยมา เพราะนายอภิวัฒอ้างว่าเป็นสินค้าหลุดจำนำทุกชิ้น เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับซื้อของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป.
ที่มา :http://www.thairath.co.th/content/545018